เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00 - 22.00 น.

ตกแต่งเว็บไซต์ให้สวยงามและน่าสนใจด้วย CSS

ตกแต่งเว็บไซต์ให้สวยงามและน่าสนใจด้วย CSS

 

        ปัจจุบัน CSS มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความสามารถใหม่ ๆ ให้กับสไตล์และการแสดงผลของเว็บไซต์ เพื่อตอบสนองความต้องการของนักพัฒนาและผู้ใช้งานในยุคที่มีการแข่งขันทางด้านความสวยงามและประสบการณ์การใช้งาน (User Experience) ของเว็บไซต์ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในปัจจุบัน บทความนี้เหมาะกับมือใหม่ที่กำลังเริ่มต้นสึกษาการพัฒนาเว็บไซต์ ซึ่ง CSS ต้องทำงานร่วมกันกับภาษา HTML จะเป็นยังไงไปอ่านกันได้เลย

เลือกอ่านตามหัวข้อได้เลยครับ
CSS คืออะไร?
หลักการทำงานของ CSS
ประวัติความเป็นมาของ CSS
มารู้จักกับ CSS3
ข้อดี VS ข้อเสียของ CSS
สรุปภาษา CSS ฉบับคนทำวิจัย

CSS คืออะไร?

        CSS (Cascading Style Sheets) คือภาษาสำหรับกำหนดรูปแบบและการจัดแสดงเนื้อหาในเว็บเพจ ซึ่งใช้เพื่อกำหนดความสวยงามและเลเอาท์ของเว็บไซต์ โดย CSS ใช้ในการกำหนดสีพื้นหลัง (background), ขนาดและตำแหน่งของตัวอักษร (font), การจัดวาง (layout), และการสร้างเอฟเฟกต์ต่างๆ เพื่อให้หน้าเว็บดูน่าสนใจและมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ส่วนใหญ่จะใช้กับ HTML โดยการกำหนด selector เพื่อเลือก element ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงลักษณะการแสดงผล แล้วกำหนด property เพื่อกำหนดค่าลักษณะการแสดงผล นอกจากนี้ยังสามารถทำเว็บไซต์ให้รองรับกับอุปกรณ์ต่างๆ อาจเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์, แท็บเล็ต, สมาร์ทโฟน หรืออื่น ๆ ที่มีขนาดหน้าจอแสงผลที่แตกต่างกันหรือที่เรียกว่า Responsive design ช่วยให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพและสะดวกในการใช้งาน

หลักการทำงานของ CSS

        CSS มีหลักการทำงานแบบ "Cascade" หรือ "Cascading" ซึ่งหมายความว่าเมื่อมีกฎรูปแบบหลายๆ กฎที่ใช้กับองค์ประกอบเดียวกัน CSS จะใช้กฎที่มีข้อบังคับที่มีระดับความสำคัญมากที่สุด หรือใช้กฎที่อยู่ภายในองค์ประกอบนั้นๆ ซึ่งทำให้ผู้พัฒนาเว็บสามารถควบคุมสไตล์แต่ละส่วนของเว็บไซต์ได้อย่างละเอียดและมีความยืดหยุ่นสูง นอกจากนี้ยังช่วยให้เว็บเพจโหลดเร็วขึ้นเนื่องจาก CSS ช่วยในการแยกส่วนการแสดงผลจากเนื้อหาของเว็บเพจ ทำให้เว็บไซต์โหลดได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

หลักการทำงานของภาษา CSS ร่วมกันกับภาษา HTML
รูปภาพแสดงหลักการทำงานของภาษา CSS ร่วมกันกับภาษา HTML

ประวัติความเป็นมาของ CSS

        CSS เกิดขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาในการแสดงและการกำหนดรูปแบบของเว็บเพจในช่วงต้นของอินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ถูกสร้างขึ้นด้วย HTML อย่างเดียว ซึ่งเกี่ยวข้องกับโครงสร้างของเนื้อหาเท่านั้น ไม่มีความสามารถในการกำหนดรูปแบบหรือการจัดวางเพิ่มเติม ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ต้องมีภาษาที่สามารถใช้กำหนดรูปแบบและสไตล์เพิ่มเติมให้กับเว็บไซต์ เมื่อ Tim Berners-Lee สร้างโครงการ World Wide Web (WWW) ในปี 1990 และเขียน HTML ครั้งแรก ต่อมาในปี 1994 ชาวดัตช์ชื่อว่า Håkon Wium Lie ทำงานกับสถาบันควบคุมเน็ตแห่งยุโรป (CERN) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการของ Tim Berners-Lee ได้เสนอแนวคิดของ Cascading HTML style sheets ที่สามารถเปลี่ยนแปลงการแสดงผลของ HTML โดยใช้สไตล์ที่ถูกกำหนดในรูปแบบแยกตัวออกมา แนวคิดนี้ได้รับการพัฒนาต่อยอด ก่อนที่เปลี่ยนชื่อเป็น CSS ภาษา CSS รุ่นแรกถูกเผยแพร่ในปี 1996 และเกิดความเปลี่ยนแปลงในรุ่นต่อๆ มา ปัจจุบัน CSS ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการออกแบบเว็บเพจและเกมออนไลน์อีกด้วย

รู้จักกับ CSS3

        CSS3 มีความหลากหลายในการกำหนดรูปแบบและสไตล์เว็บเพจ โดยรวมถึงการเพิ่มเอฟเฟกต์และคุณสมบัติใหม่ ๆ เพื่อช่วยให้นักพัฒนาเว็บสามารถสร้างเว็บไซต์ที่สวยงามและสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยเพิ่มความสามารถเข้ามาใหม่ยกตัวอย่าง เช่น

  • การกำหนดรูปแบบทางภาพ โดยช่วยให้นักพัฒนาสามารถกำหนดรูปแบบทางภาพโดยไม่ต้องใช้ภาษาอื่น ในการจัดการรูปภาพและกราฟิก เช่น เพิ่มเงาหรือสไลด์เนื้อหา
  • แอนิเมชันและการเคลื่อนไหว โดยรองรับการสร้างแอนิเมชันและการเคลื่อนไหวขององค์ประกอบต่างๆ ที่ช่วยให้สามารถสร้างเอฟเฟกต์และการเคลื่อนไหวให้กับเว็บไซต์ได้ทำให้เว็บไซต์ดูน่าตื่นตามากยิ่งขึ้น
  • เว็บแบบ Responsive design โดยสนับสนุนความสามารถในการสร้างเว็บไซต์ที่ Responsive หรือ ที่เรียกว่าเว็บไซต์ที่ปรับตัวให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการเข้าชม เช่น มือถือหรือแท็บเล็ต สามารถแสดงเนื้อหาได้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นจอแสดงผลขนาดเล็กหรือใหญ่
  • การกำหนดรูปแบบฟอร์ม โดยช่วยให้สามารถกำหนดรูปแบบของฟอร์มให้สวยงามและมีความสวยงาม
  • การทำงานกับฟอนต์ มีความสามารถในการกำหนดรูปแบบฟอนต์ที่สวยงามและสำหรับไปใช้งานที่เว็บไซต์ได้ตามที่ต้องการ

ข้อดี VS ข้อเสีย ของ CSS

ข้อดีของ CSS

  1. มีความยืดหยุ่นและประหยัดเวลา ช่วยให้ผู้พัฒนาเว็บไซต์สามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนรูปแบบทั้งหมดของเว็บไซต์ในไฟล์เดียว โดยไม่ต้องแก้ไขทีละหน้าของ HTML ทำให้ประหยัดเวลาและง่ายต่อการบำรุงรักษาเว็บไซต์ในอนาคต
  2. มีความสวยงามและความน่าสนใจ ช่วยให้เว็บไซต์มีความสวยงามและสไตล์ที่น่าสนใจ โดยสามารถกำหนดสีพื้นหลัง รูปแบบตัวอักษร ขนาด ตำแหน่งและเอฟเฟกต์ต่างๆ ให้กับเนื้อหา
  3. มีความเร็วในการโหลด ช่วยแยกส่วนการแสดงผลจากเนื้อหา ทำให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้นและลดการใช้ทรัพยากรของเว็บเซิร์ฟเวอร์
  4. มีความเข้ากันได้ เป็นเทคโนโลยีที่เข้ากันได้กับหลายเว็บเบราว์เซอร์ ทำให้เว็บไซต์ทำงานได้ดีบนแพลตฟอร์มที่แตกต่างกัน

ข้อเสียของ CSS

  1. มีความซับซ้อนในการเรียนรู้ อาจมีความซับซ้อนในการเรียนรู้ โดยเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ไม่คำนึงถึงข้อกำหนดที่ต้องการในการเรียกใช้รูปแบบ อาจทำให้ต้องใช้เวลาสักระยะ
  2. Cross-browser Compatibility (ความเข้ากันได้ของเบราว์เซอร์) บางครั้ง CSS อาจมีปัญหาในการแสดงผลในเบราว์เซอร์ที่แตกต่างกัน ทำให้ผู้พัฒนาต้องทำการปรับแต่งสไตล์เพื่อให้เหมาะสมกับเบราว์เซอร์ต่างๆ
  3. มีข้อจำกัดในการจัดแสดงผล บางครั้ง CSS อาจมีข้อจำกัดในการจัดแสดงผลเหตุในสภาพแวดล้อมและการใช้งานที่ต่างกัน ซึ่งอาจทำให้ยากในการสร้างเอฟเฟกต์หรือรูปแบบที่เหมือนกันในแต่ละแพลต์ฟอร์ม (cross-platform) ได้อย่างเหมาะสม
  4. ความสามารถในการจัดหน้าแบบที่ยังมีข้อจำกัด สำหรับการจัดหน้าที่ซับซ้อนและซับซ้อนมาก การใช้ CSS อาจไม่เพียงพอและอาจต้องใช้ JavaScript เพื่อให้บรรทัดต่อกันหรือการจัดหน้าที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น

สรุปเรื่องภาษา CSS ฉบับคนทำวิจัย

        หากคุณกำลังทำงานวิจัย วิทยานิพนธ์ หรือโครงงานคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับทำหรือพัฒนาเว็บไซต์ในส่วนของ Front End ต้องอาศัยการจัดรูปแบบเว็บไซต์ด้วย CSS โดยอาจจะเขียนขึ้นมาเองด้วยความเข้าใจหรือเลือกใช้ตัว Framework สำเร็จรูปที่มีอยู่ก็จะช่วยให้ชิ้นงานวิจัยดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น หากยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับ CSS มากนักทางทีมงานเราก็มีสอน ปูพื้นฐานการทำเว็บไซต์ด้วยภาษา HTML และ CSS ด้วยนะครับ

        ถ้าชอบคอนเทนต์แบบนี้สามารถติดตามข่าวสารและบทความที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยของ makewebproject เพื่ออัปเดทความเคลื่อนไหวของการเขียนโปรแกรมภาษา HTML หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือติดปัญหาส่วนไหนสามารถสอบถามผ่าน Facebook หรือ Line ได้เลยครับ

อ่านข่าวอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ บทความและเทคนิคการทำวิจัย

 

แชร์ข่าวนี้ให้เพื่อนคุณ:
กลับหน้าเทคนิคการทำโปรเจค

 

อย่าลืมกดติดตามอัปเดตข่าวสาร เทคนิคดีๆกันนะครับ Please follow us

เรื่องที่เกี่ยวข้อง: